General Anxiety Disorder

Imagine this scenario: A young businesswoman is in a hurry to leave her house for an important meeting. She is stressed and on edge meticulously planning for her presentation. Her boss has hinted that she might receive a promotion if the meeting goes well. Before leaving the house, she pours out a bowl of cat food for her beloved cat, Somying. Running out of time, she quickly pays her credit card bill online and rushes to her car to drive to the office. During her drive she hopes her old car won’t break down. At the stoplight, she worries that she did not pour out enough food for her beloved cat and that Somying will go hungry. As she merges into the highway lane she cannot help but to think whether the credit card bill she paid online will help her avoid late fees.

Finally she arrives at the office building. As she takes the elevator to the top floor, the thought of her little nephew who fell yesterday at the playground creeps into her mind. Her nephew received only superficial scratches from his fall but she cannot help but to worry that the minor scratches will become infected. Finally she enters the meeting room and begins preparing for her big presentation, simultaneously worrying if her office coworkers will like her or not.

Sound stressful? Do you or anyone you know go through the day with excessive, uncontrollable, and often irrational worries that often interfere with daily functions such as the businesswoman in this scenario? It is possible that they have some element of an anxiety disorder known as general anxiety disorder.

General anxiety disorder is believed to be the most common emotional and psychological disorder worldwide. Patients will present with excessive anxiety and multiple worries similar to the above example. Typically the anxiety experienced will be out of proportion to the event and the patient will convey that they have been an anxious person as long as they can remember.

As a result of being in a constant mode of anxiousness, the patient will also typically complain of fatigue, concentration difficulties, muscle tension (typically tension headaches from the strain of the neck muscles), and restlessness. For some reason, general anxiety disorder tends to affect the female gender more than the male gender.

In order to diagnose someone with general anxiety disorder, the patient must experience anxiety episodes that occur daily for more than six months. The physical examination will be normal. It is very important to rule out medical causes that can mimic anxiety symptoms. As thyroid glands are the headquarters of our body’s metabolism center, it is important to check the TSH level (thyroid stimulating hormones) in the blood as to rule out the condition of hyperthyroidism. Furthermore, it is important to check the patient’s history such as: how many cups of coffee does the patient consume daily, and what type of medication the patient is taking as medications such as amphetamines can mimic anxiety symptoms.

In short, general anxiety disorder is a diagnosis by exclusion. The patient must present with a history of anxiety symptoms for more than six months and medical tests must be ordered to exclude the possibility that the symptoms of anxiety stem from a medical condition and/or a pharmacological agent.

Treatment of general anxiety disorder consists of relaxation training such as meditation, and psychotherapy. It is essential for the patient to become mindful of their anxiety producing thoughts. Pharmacotherapy such as SSRIs and benzodiazepines can serve as a bridge during the patient’s psychotherapy in order to reduce anxious thoughts while working toward controlling and keeping anxiety in check.

Wishing everyone a clam and productive day.

Thai Version:

แปลบทความของ นายแพทย์ Chakriwat Vivacharawongse เราลองมาดูเหตุการณ์สมมุตินี้กันนะครับ นักธุระกิจสาวคนหนึ่งรีบออกจากบ้านของเขาเพื่อเข้าประชุมสำคัญตอนเช้า เขาเครียดมากเขาต้องเตรียมการนำเสนอแผนงานที่สำคัญ หัวหน้าของเขาบอกใบ้ว่าเขาอาจจะได้เลื่อนตำแหน่ง ถ้าการประชุมนี้ผ่านไปด้วยดี ก่อนออกจากบ้าน เขาเทอาหารใส่ถ้วยให้แมวสุดที่รักของเขา เจ้าแมวเหมียวมีชื่อว่าสมหญิง เขาเกือบจะไม่มีเวลาเขารีบจ่ายบิลออนไลน์แล้วรีบบึ่งไปที่รถเพื่อจะขับไปทำงาน ระหว่างขับรถไปทำงาน เขาก็มีความคิดขึ้นมาว่า หวังว่ารถคันนี้จะไม่เสีย ถึงที่ไฟจราจรเขาก็เกิดกังวลขึ้นมาว่า เขาได้ให้อาหารแมวเพียงพอรึเปล่านะ สมหญิงอาจจะหิว ขณะที่เขากำลังเลี้ยวเข้าเลนขึ้นทางด่วนเขาก็อดคิดไม่ได้ว่า เขาจ่ายบิลออนไลน์ครั้งนี้จะถูกปรับหรือเปล่า เขาจ่ายช้าเกินไปไหม และแล้วเขาก็มาถึงตึกที่ทำงาน ขณะที่เขาอยู่ในลิฟท์ เขาก็หวนไปนึกถึงหลานชายที่หกล้มในสนามเด็กเล่นเมื่อวานนี้ขึ้นมา หลานชายของเขามีเพียงรอยขีดข่วนตอนที่หกล้ม แต่เขาก็อดกังวลไม่ได้ว่าหลานชายจะมีอาการแผลติดเชื้อหรือเปล่า และแล้วเขาก็เข้าสู่ห้องประชุมและก็เริ่มนำเสนอผลงานสำคัญ ในขณะที่นำเสนอผลงานเขาก็เริ่มกังวลว่าเพื่อนร่วมงานจะชอบเขาไหม ฟังดูแล้วน่าเครียดไหมล่ะครับ ตัวคุณเองหรือคนที่คุณรู้จักเคยมีวันที่เป็นแบบนี้บ้างไหม เป็นวันที่มีอาการกังวลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เหมือนกับนักธุระกิจหญิงในเหตุการณ์สมมุตินี้ มันเป็นไปได้นะว่าพวกเขาเหล่านี้ มีอาการของโรควิตกกังวล โรควิตกกังวลนั้นมันเป็นโรคธรรมดาที่คนก็เป็นกันได้ทั่วโลก ผู้ป่วยจะมีอาการกังวลมากและวิตกในหลายเรื่องเหมือนกับเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น โดยธรรมดาแล้วผู้ที่เป็นโรควิตกังวลจะมีความวิตกกังวลในหลายเรื่องมากเกินไปและพวกเขาจะแสดงว่าเขาเคยเป็นคนวิตกกังวล ถ้าหากพวกเขาจำได้

ผลสืบเนื่องมากจากความวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยจะมีความยากลำบากในการจดจ่อในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มีอาการตึงเครียดของกล้ามเนื้อ(โดยทั่วไปแล้วจะมีอาการปวดตึงศรีษะ สืบเนื่องมาจากการตึงเครียดที่ต้นคอ)และการพักผ่อนไม่เพียงพอด้วยเหตุผลบางอย่าง อาการโรควิตกกังวลจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงเสียส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับผู้ชาย

การจะบอกว่าใครมีอาการของโรควิตกกังวลหรือไม่นั้น ผู้ป่วยต้องมีอาการวิตกกังวลทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อยหกเดือน ผลการตรวจร่างกายปกติดี อาการของโรคบางอย่างอาจจะมีอาการคล้ายกับโรควิตกกังวล ตัวอย่างเช่น ต่อมไทรอยด์ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางบัญชาการเผาผลาญของร่างกาย มันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่เราจะต้องตรวจระดับฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ในเลือด เพื่อดูว่ามันปกติดีหรือไม่ ถ้าระดับฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ปกติดี เราควรต้องตรวจอาการของโรคอื่นๆควบคู่กันไปด้วย ถ้าฮอร์โมนปกติดีก็ตัดอาการของโรคไทรอยด์ออกไป นอกจากนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบประวัติของผู้ป่วย เช่น ผู้ป่วยดื่มกาแฟในปริมาณมากน้อย กี่แก้วในแต่ละวัน และถามผู้ป่วยว่ากำลังใช้ยาอะไรอยู่ กรณีของผู้ป่วยที่ใช้ยาบ้า การใช้ยานี้จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหมือนเป็นโรควิตกกังวล

การรักษาโรควิตกกังวลโดยทั่วไปแล้วประกอบไปด้วย การฝึกผ่อนคลาย เช่น การนั้งสมาธิ การทำจิตบำบัด มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ป่วยจะต้องระลึกรู้ว่า เขากำลังมีอาการวิตกกังวลอยู่ การบำบัดด้วยยา เช่น SSRIs และ benzodiazepines จะช่วยผู้ป่วยคลายอาการกังวลได้ในระหว่างการทำจิตบำบัด เพื่อช่วยควบคุมอาการกังวลให้อยู่ในระดับปกติ หวังว่าทุกท่านจะผ่อนคลายและทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพในวันนี้นะครับ